จากความคาดหวังสู่ความเข้าใจ: ความสุขของครูที่นักเรียนกล้าเข้าหา

1 พฤศจิกายน 2567
  •    1,840

จากความคาดหวัง สู่ความเข้าใจ: ความสุขของครูที่นักเรียนกล้าเข้าหา

โดย ครูถาวร ศรีทุม จากโรงเรียนวัดแหลมแค จังหวัดชลบุรี

 

ในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ความคาดหวังของครูมักเป็นดาบสองคม ด้านหนึ่งคือแรงผลักดันให้นักเรียนพัฒนา แต่อีกด้านกลับสร้างความกดดันและความผิดหวังเมื่อความเป็นจริงไม่เป็นไปตามที่ใจต้องการ บทความนี้นำเสนอเรื่องราวของคุณครูฮอน ผู้เคยเผชิญกับความท้าทายนี้ และได้ค้นพบวิธีการใหม่ในการสร้างความสุขในการสอน

คุณครูฮอน หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 ได้แบ่งปันประสบการณ์อันมีค่าผ่านรายการ "The Light Up Talk ล้อมวงคุย" (ภาคเหนือ) EP.5  เรื่องราวของเธอไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตการสอน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณครูท่านอื่นๆ ที่อาจกำลังเผชิญกับความรู้สึกหงุดหงิดและท้อแท้จากความคาดหวังที่ไม่เป็นจริง

ติดตามไปด้วยกันว่า คุณครูฮอนได้เปลี่ยนแปลงวิธีการสอนของเธออย่างไร จนนำไปสู่ห้องเรียนที่มีความสุขและการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

จากความคาดหวัง สู่ความเข้าใจ

 

เมื่อคุณครูฮอนย้ายมาสอนที่โรงเรียนวัดแหลมแค เธอพบว่านักเรียนที่นี่มีความหลากหลายทั้งในด้านพื้นฐานความรู้และเชื้อชาติ ด้วยความเคยชินจากโรงเรียนเดิม เธอคาดหวังว่านักเรียนทุกคนจะมีความพร้อมในการเรียนรู้เหมือนกัน แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น นักเรียนหลายคนยังอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด

 

เสียงดุ กับผลกระทบที่ไม่คาดคิด

 

ความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงนำไปสู่การใช้วิธีการควบคุมชั้นเรียนด้วยน้ำเสียงดุและเสียงดัง คุณครูฮอนเล่าว่า "เด็กมา 80 เดซิเบล เราจะไป 120" เธอพยายามใช้เสียงเพื่อข่มนักเรียนให้อยู่ในโอวาท แต่ผลที่ตามมากลับเป็นความเจ็บคอของเธอเอง และนักเรียนก็ไม่กล้าเข้าหา

 

จุดเปลี่ยน: จากการสั่งการสู่การทำความเข้าใจ

 

การเข้าร่วมอบรม เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตการสอนของคุณครูฮอน เธอได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติจากการสอนด้วยความคาดหวังและการสั่งการ มาเป็นการเข้าใจและยอมรับความแตกต่างของนักเรียนแต่ละคน วิธีการใหม่ที่เธอนำมาใช้ ได้แก่:

1. ทำความเข้าใจปัญหารายบุคคล : แทนที่จะสั่งให้นักเรียนทำตามเมื่อพบว่าพวกเขาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เธอเลือกที่จะเข้าไปสอบถามและทำความเข้าใจปัญหาของแต่ละคน
2. สื่อสารด้วยเหตุผล : เธอเปลี่ยนจากการใช้เสียงดังหรือดุทั้งห้อง มาเป็นการพูดคุยกับนักเรียนด้วยเหตุผลเป็นรายบุคคล
3. ส่งเสริมการแก้ปัญหาด้วยตนเอง : แทนที่จะบอกวิธีแก้ปัญหาโดยตรง เธอกระตุ้นให้นักเรียนคิดหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

 

คุณครูฮอนเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า:

"เมื่อก่อนจะดุทั้งห้องเลย พออบรมเราจะไม่พูดส่วนรวมเพราะเด็กที่เขาดีอยู่แล้ว เขาก็จะได้รับอารมณ์ส่วนนี้ไปด้วย หรือได้รับน้ำเสียงตรงนี้ไปด้วย เราจะเรียกเด็กเข้ามาทีละคน 'หนูมีปัญหาอะไร เป็นเพราะอะไรคะ ทำไมหนูทำงานไม่เสร็จ หนูอ่านไม่ได้ตรงไหนให้มาหาคุณครู' และให้เขาคิดแก้ปัญหาเอง 'หนูจะทำอย่างไร' ให้เขาเป็นคนคิดแก้เอง"

 

 

 

ตัวอย่างที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ เมื่อพบว่านักเรียนอ่านหนังสือไม่ออก แทนที่จะสั่งให้นักเรียนไปฝึกอ่านเพิ่ม เธอเลือกที่จะถามถึงสาเหตุ: ถ้าเด็กยังอ่านหนังสือไม่ออกเราก็ถามเขา 'ทำไมหนูยังอ่านไม่ได้ มีปัญหาอะไร หนูมีเชื้อชาติอะไร' บางคนเขาเป็นกัมพูชา ภาษาเขาจะอ่อนอยู่แล้ว  วิธีการนี้ช่วยให้เธอเข้าใจปัญหาที่แท้จริงและสามารถให้ความช่วยเหลือได้ตรงจุดมากขึ้น

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

 

การเปลี่ยนแปลงวิธีการสอนของคุณครูฮอนได้ส่งผลดีทั้งต่อตัวเธอเองและนักเรียน:

1. ครูมีความสุขมากขึ้น : "เมื่อก่อนเราใจร้อนเด็กไม่เป็นตามที่เราคาดหวัง รู้สึกหงุดหงิด รู้สึกไม่มีความสุข... ตอนนี้เราสงบและมีความสุข พร้อมเข้าไปหาเด็กแต่ละคน"
2. นักเรียนกล้าเข้าหาครูมากขึ้น : "เด็กเริ่มเข้าหา เอาของมาฝาก ต่อต้านครูน้อยลง"
3. บรรยากาศการเรียนรู้ดีขึ้น : นักเรียนเริ่มกล้าถามคำถามและขอความช่วยเหลือเมื่อไม่เข้าใจ เช่น "ครูคะหนูไม่เข้าใจคิดอย่างไร" "ตรงนี้หนูอ่านไม่ค่อยออก คุณครูช่วยพาหนูอ่านหน่อย"

 

การนำไปปรับใช้

ประสบการณ์ของคุณครูฮอนสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณครูท่านอื่นๆ ในการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนและสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ต่อไปนี้คือแนวทางการนำไปปรับใช้ที่คุณครูสามารถพิจารณา:

1. การปรับทัศนคติของตนเอง :
- ทำความเข้าใจตนเองและความคาดหวังที่มีต่อนักเรียน
- เปิดใจยอมรับความแตกต่างของนักเรียนแต่ละคน
- มองว่าความท้าทายในการสอนเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเองและนักเรียน

 

2. การสื่อสารเชิงบวก :
- ใช้คำพูดที่ให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจ
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเสียงดุดันหรือการตำหนิ
- ชวนนักเรียนคิดหาทางแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยใช้คำถามปลายเปิด

 

3. การสร้างพื้นที่ปลอดภัย :
- เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ
- รับฟังความคิดเห็นของนักเรียนอย่างตั้งใจและเคารพ
- ไม่ตัดสินนักเรียนจากความคิดเห็นหรือคำตอบของพวกเขา

 

4. การทำความเข้าใจปัญหารายบุคคล :
- สังเกตและรับฟังปัญหาของนักเรียนแต่ละคนอย่างใส่ใจ
- ปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของนักเรียนแต่ละคน
- ให้ความช่วยเหลือเป็นรายบุคคลเมื่อจำเป็น

 

การนำแนวคิด facilitation ไปปรับใช้ในห้องเรียนต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการ การฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละห้องเรียน คุณครูอาจพิจารณาเข้าร่วมการอบรม facilitation เพื่อเรียนรู้เทคนิคและวิธีการเพิ่มเติม และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนครูท่านอื่นๆ

การเปลี่ยนแปลงอาจไม่เกิดขึ้นในทันที แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความเข้าใจ คุณครูสามารถสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เปี่ยมไปด้วยความเข้าใจและความสุขได้ เช่นเดียวกับที่คุณครูฮอนได้ทำสำเร็จ

 

บทสรุป

ประสบการณ์ของคุณครูฮอนแสดงให้เห็นว่า การปรับเปลี่ยนมุมมองจากการคาดหวังและสั่งการ มาสู่การทำความเข้าใจและช่วยแก้ไขปัญหา สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกได้อย่างมาก การยอมรับความแตกต่าง เข้าใจปัญหารายบุคคล และส่งเสริมให้นักเรียนคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง ไม่เพียงแต่ช่วยให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและนักเรียนอีกด้วย

สำหรับคุณครูท่านอื่นที่อาจกำลังเผชิญกับความท้าทายคล้ายกัน การเปิดใจยอมรับและปรับเปลี่ยนวิธีการสอนจากการสั่งการมาเป็นการทำความเข้าใจ อาจเป็นก้าวแรกสู่การสร้างห้องเรียนที่มีความสุขและการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสำหรับทุกคน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง
Facilitation สู่การสร้างห้องเรียนแห่งความสุข: มุมมองจากคุณครูภาคสนาม:
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2d4

ครูเสกสันต์ ณ.เชียงใหม่ จากครูดุสู่ครูใจดี : เส้นทางการสร้างห้องเรียนแห่งความสุข
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2e4

สอนเด็กให้ทำงานเป็นทีมด้วยผู้นำ 4 ทิศ: จากความเงียบ...สู่พลังแห่งการเรียนรู้
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x264

ครูถาวร ศรีทุม จากความคาดหวัง สู่ความเข้าใจ : ความสุขของครูที่นักเรียนกล้าเข้าหา
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2f4

ครูสมหทัย แคว้นไธสง เปิดประตูสู่ความเข้าใจ : การใช้การฟังเชิงลึกเพื่อเปลี่ยนแปลงห้องเรียน
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x274

 



ติดตามข่าวสาร คอร์สอบรมต่างๆ ทาง FB โครงการ : https://www.facebook.com/sila5schoolproject

ข้อมูลโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพฯ : https://www.sila5.com/school/


  •    1,840