ถ้าคุณนั่งสมาธิ 10-15 นาที ร่างกายคุณจะเป็นยังไง?

20 กุมภาพันธ์ 2568
  •    748

https://www.facebook.com/reel/620004667061127

จากคลิป ถ้าคุณนั่งสมาธิ 10-15 นาที ร่างกายคุณจะเป็นยังไง?

คลิป กล่าวถึงผลของการนั่งสมาธิวันละ 10-15 นาที เป็นเวลา 1 เดือน ดังนี้:

การนั่งสมาธิช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบัน ลดความกังวลเกี่ยวกับอดีตและอนาคต

การนั่งสมาธิสัมพันธ์กับคลื่นความถี่ในสมองที่เป็น แอลฟ่าเวฟ ซึ่งทำให้ไม่เครียด

เมื่อไม่เครียด ฮอร์โมนคอร์ติซอล จะไม่หลั่ง ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

ผลลัพธ์ที่หมอพบกับตัวเองและเพื่อนร่วมกิจกรรม:

ºผมยาวขึ้น แข็งแรงขึ้น และร่วงน้อยลง

ºหมอแนะนำการนั่งสมาธิให้กับคนไข้ที่มีภาวะเครียดสะสมและผมร่วงเป็นหย่อมๆ ร่วมกับวิตามินบำบัด พบว่าอาการผมร่วงดีขึ้น

ºคนไข้ที่มีประวัติเป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง อาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ หายไป

ºผิวใสขึ้น เนื่องจากเซลล์มีการซ่อมแซมตัวเอง เก็บน้ำได้ดี สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินได้ดี

ºมี ออร่า และ พลังงาน จากภายในมากขึ้น1

ºแววตาสดชื่น และมีพลังในการทำงานมากขึ้น

ºมีความสุขมากขึ้นเพราะชินกับการอยู่กับปัจจุบัน

 

 ∗กิจวัตรความดีข้อที่ 2 นั่งสมาธิ

 

ในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียด การดูแลสุขภาพกายและใจจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ ครอบครัวอบอุ่น ได้นำเสนอแนวทางปฏิบัติ 7 กิจวัตรความดี เพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีความสุข ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจอย่างมากคือ การนั่งสมาธิหนึ่งใน 7 กิจวัตรความดี ข้อที่ 2

สมาธิหรือการรักษาสมาธิในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นมีประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านสุขภาพจิตและสุขภาพกาย รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือการเรียนรู้ นี่คือประโยชน์หลักๆ ของการมีสมาธิที่ดี:

     1. เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และการทำงาน: การมีสมาธิที่ดีช่วยให้คุณสามารถจดจ่อกับงานที่ทำอยู่ได้เต็มที่ ซึ่งช่วยให้งานนั้นเสร็จสิ้นได้เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น

     2. ลดความเครียด: การฝึกสมาธิสามารถช่วยลดระดับความเครียดและความวิตกกังวลได้ เพราะช่วยให้จิตใจสงบและลดการคิดฟุ้งซ่าน

     3. พัฒนาความจำ: การฝึกสมาธิช่วยให้ความจำดีขึ้น สามารถจำข้อมูลได้ชัดเจนและยาวนานขึ้น

     4. สุขภาพจิตที่ดี: การมีสมาธิที่ดีช่วยให้คุณมีจิตใจที่สงบ สามารถควบคุมอารมณ์และการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น

    5. ส่งเสริมการนอนหลับ: การฝึกสมาธิสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ลึกขึ้นและตื่นมาพร้อมกับความสดชื่น

     6. เพิ่มความอดทนและความยืดหยุ่นทางอารมณ์: การฝึกสมาธิช่วยให้คุณสามารถรับมือกับความท้าทายหรือความเครียดได้ดีขึ้นโดยไม่ทำให้จิตใจหวั่นไหวง่าย

การฝึกสมาธิไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการนั่งสมาธิเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำกิจกรรมที่ต้องการความจดจ่อสูง เช่น การทำงานศิลปะ การเล่นกีฬา หรือแม้แต่การทำสวน การมีสมาธิที่ดีสามารถช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน


การนำไปปฎิบัติ

การนั่งสามาธิไม่ใช่เรื่องยาก สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการหาที่เงียบสงบ นั่งในทำท่าที่สบาย กำหนดลมหายใจเข้าออก หรือใช้สามาธิกับคำภาวนา การฝึกฝนเป็นประจำจะช่วยให้จิตใจสงบและมีสติยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินชีวิตตามแนวทาง 7 กิจวัตรความดี และนำมาซึ่งความสุขและสงบที่แท้จริง

มีตัวอย่างจากคลิปที่เขามีเทคนิคในการเรียนได้ท๊อปของห้อง

https://www.facebook.com/reel/892922429491367?locale=th_TH


หลังจากที่ได้ทราบประกาศผลสอบว่าสมชายได้ท๊อปของห้อง และนี่คือ สิ่งที่สมชายได้ทำก่อนสอบ คนเราโดยเฉลี่ยจะมีสมาธิประมาณ 30 นาที พอรู้สิ่งนี้ สมชายก็เลยใช้เทคนิค Pomodoro 
เทคนิค Pomodoro เทคนิคจัดการเวลา พัฒนาโดย Francesco Cirillo ในปี 1980 Pomodoro เป็นภาษาอีตาลี หมายถึง "มะเขือเทศ" เป็นวิธีการบริหารเวลาที่ช่วยเพิ่มสมาธิและความสามารถในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:

เทคนิค Pomodoro ซึ่งมีอยู่ 4 Step
1. จดในสิ่งที่ต้องทำ  ก่อนเริ่มต้นทำงานหรือเรียน ให้จดรายการสิ่งที่ต้องทำทั้งหมด เพื่อให้เห็นภาพรวมและจัดลำดับความสำคัญได้
2. ตั้งเวลา 25 นาที กำหนดเวลาทำงานหรือเรียน 25 นาที และตั้งใจทำสิ่งนั้นเพียงอย่างเดียวโดยไม่วอกแวก
3. Focus ทำในสิ้งที่จดไว้ (โดยไม่ไปทำอย่างอื่น) ในช่วงเวลา 25 นาที ให้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานที่ทำเพียงอย่างเดียว ไม่ทำกิจกรรมอื่น ๆ แทรก
4. สุดท้ายพอเวลาหมดไปพัก  5 นาที เมื่อหมดเวลา 25 นาทีแล้ว ให้พัก 5 นาที เพื่อผ่อนคลายและเตรียมตัวสำหรับการทำงานรอบต่อไป


ความสำคัญของเทคนิค Pomodoro:
ºช่วยเพิ่มสมาธิ: การทำงานเป็นเวลาช่วงสั้นๆ ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อได้ดีขึ้น ลดความเบื่อหน่ายและความล้า
ºช่วยบริหารเวลา: เทคนิคนี้ช่วยให้สามารถจัดสรรเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รู้ว่าควรใช้เวลาเท่าไหร่ในการทำแต่ละสิ่ง
ºช่วยลดความเครียด: การพักเป็นช่วง ๆ ช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้า ทำให้ทำงานได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกหมดแรง
ºช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ: เมื่อมีสมาธิและบริหารเวลาได้ดีขึ้น ก็จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะดีตามไปด้วย

การนำไปประยุกต์ใช้
ºการเรียน: เทคนิค Pomodoro เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน หรือทำโจทย์ เพราะช่วยให้มีสามาธิและไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
ºการทำงาน: สามารถนำไปใช้กับงานที่ต้องใช้สมาธิและควมคิดสร้างสรรค์ เช่น การเขียนโปรแกรม การออกแบบ หรือการวางแผนโครงการ

โดยสรุป  เทคนิค Pomodoro เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากในการเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงานหรือเรียน ลดความเครียดและเพิ่มความสุขในการทำงาน

 
 
 
 

7 กิจวัตรความดีประกอบด้วย

https://www.sila5.com/detail/index2/index

 

รับชมสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับ 7 กิจวัตรความดีได้ที่

https://sila5.com/media/

 

บทความที่เกี่ยวข้อง
Facilitation สู่การสร้างห้องเรียนแห่งความสุข: มุมมองจากคุณครูภาคสนาม:
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2d4

ครูเสกสันต์ ณ.เชียงใหม่ จากครูดุสู่ครูใจดี : เส้นทางการสร้างห้องเรียนแห่งความสุข
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2e4

ครูกาญจนา จารีย์ สอนเด็กให้ทำงานเป็นทีมด้วยผู้นำ 4 ทิศ: จากความเงียบ...สู่พลังแห่งการเรียนรู้
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x264

ครูถาวร ศรีทุม จากความคาดหวัง สู่ความเข้าใจ : ความสุขของครูที่นักเรียนกล้าเข้าหา
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2f4

ครูสมหทัย แคว้นไธสง เปิดประตูสู่ความเข้าใจ : การใช้การฟังเชิงลึกเพื่อเปลี่ยนแปลงห้องเรียน
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x274

ครูอลิศรา โพธิ์กิ่ง การสร้างภาวะความเป็นผู้นำในรั้วโรงเรียน : เรื่องการสื่อสารที่ดี
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x284

 

#7กิจวัตรความดี #ห้องเรียนแห่งความสุข #เครื่องมือพัฒนานักเรียน #โรงเรียนรักษาศีล5

 

 

 

 


  •    748