เปลี่ยนนิสัย ด้วยสมุดเล่มเดียว

19 มีนาคม 2564 16:04 น.

---

---

 

The Light Up Talk: เปลี่ยนนิสัย ด้วยสมุดเล่มเดียว 

 

ประเด็นสำคัญในการสัมภาษณ์

นางสาวรัตนพร รัตนพันธ์ (น้องยีนส์) ผู้ชนะเลิศ sila5 smart idol

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จังหวัดสมุทรปราการ

 

 

  

                          

เสียงต่อต้านกับภาระที่เพิ่มขึ้น

 

          “ทำไมต้องทำด้วยละคะครู ทำแล้วได้อะไร การบ้านก็เยอะต้องทำอีกหรือ ไม่ทำไม่ได้หรือคะครู สมุดบันทึกความดีเล่มเก่าก็มีอยู่แล้วทำไมต้องทำอีก”

เสียงต่อต้านจากกลุ่มเด็ก ๆ ที่ไม่อยากทำสมุดบันทึกความดี ดังก้องอยู่ในห้องเรียน จนครูปวดหัวอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ยินคำถามจากนักเรียน

“ในช่วงแรก ๆ ยีนส์ก็ต่อต้านไม่น้อย ชวนเพื่อน ๆ ไม่ส่ง ไม่ทำ สมุดบันทึกความดี หรือก็แกล้งส่งช้า ๆ ในช่วงแรก ๆ” นี้เป็นการให้สัมภาษณ์จากกลุ่มเด็ก ๆ หลังห้อง เมื่อต้องทำสมุดบันทึกความดีเล่มใหม่

“อีกทั้งความคิดของยีนส์ที่ว่า ทำไมต้องมาเข้าแถวตอนเช้า ทำไมต้องนั่งสมาธิตอนเช้า ทำไมต้องทำเวรห้อง ทำไมต้องพบครูที่ปรึกษาด้วย คือมาเรียนหนังสือนะ ก็ต้องเรียนอย่างเดียวไม่ใช่หรือ” นี่เป็นความคิดของน้องยีนส์ ที่วนเวียนหาคำตอบอยู่ในใจตลอดเวลา

แต่เมื่อเด็ก ๆ ได้รับฟังคำอธิบายจากคุณครู ด้วยการให้ลองทำดู เปิดใจกับการทำความดีเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วบันทึกลงในสมุดบันทึกความดี ซึ่งการกระทำนี้จะส่งผลกับอนาคตของเราในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย เพราะเราใกล้จะเรียนจบแล้ว จึงลองทำดู

   

         

เมื่อคำพูดของเพื่อนสนิทส่งผลกระทบจนเกิดจุดเปลี่ยน

 

          “บ้านยีนส์อยู่ใกล้โรงเรียนแค่นี้ทำไมไม่มาช่วยเพื่อนบ้างละ เพื่อนทำอะไรยีนส์ก็ไม่มาช่วย ทำไมยีนส์ไม่ลองมาเช้า ๆ เหมือนเพื่อน ๆ บ้างล่ะ มาช่วยเพื่อน ๆ บ้าง...ลองดูนะ” 

เมื่อเพื่อนสนิทหมดความอดทนกับยีนส์ ความเป็นเพื่อนเริ่มสั่นคลอน เพราะนิสัยของยีนส์ อีกทั้งยีนส์ก็อยู่มัธยมศึกษาปีที่ 5 แล้ว อีกหน่อยก็ต้องไปต่อระดับมหาวิทยาลัย ยีนส์จึงอยากลองเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองบ้าง

เมื่อคำพูดของเพื่อน ๆ อีกทั้งการอยากพัฒนาตนเองทำให้น้องยีนส์ได้คิด จึงลองเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากที่เคยมาโรงเรียนแปดโมงครึ่ง ก็เลื่อนขึ้นมาเป็นหกโมงครึ่ง เพื่อไปช่วยครูและเพื่อน ๆ จัดสถานที่ พอลองทำดูก็รู้ว่าตนเองก็สามารถทำได้

จากการให้สัมภาษณ์ของน้องแป้งเพื่อนสนิทของน้องยีนส์ว่า...ทำไมต้องพูดกับเพื่อนอย่างนั้น คำตอบน่าสนใจมาก ๆ ครับ “หนูคิดว่าเพื่อนของหนูเป็นคนมีความสามารถ มีภาวะความเป็นผู้นำ เป็นคนเก่ง เพียงแค่มาโรงเรียนสายเท่านั้น หนูจึงอยากให้เพื่อนลองมาทำกิจกรรมกับพวกเราบ้าง หนูว่าเพื่อนหนูทำได้และทำได้ดีด้วย”

 

 

            

ศักยภาพของยีนส์ที่ซ่อนอยู่

 

          “จากความคิดที่เราคิดว่าเราไม่สามารถทำได้ แต่พอลองทำเรากลับได้รับคำชื่นชมจากคุณครู ได้รับคำชมจากเพื่อน ๆ ทำให้เรารู้สึกว่ามันก็ไม่ยากนะกับการทำความดี และมีแรงบันดาลใจในการทำความดีช่วยเหลืองานคุณครู และเพื่อนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในสมุดบันทึกความดีก็มีสื่อที่ทำให้เราศึกษาการทำความดีได้ง่าย น่าสนใจ” 

เมื่อความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และคุณครูดีขึ้น ขั้นต่อไปน้องยีนส์ลองมาทำที่บ้านดู

“จากเดิม...งานบ้านต้องเป็นภาระของป้า ซึ่งป้าก็ตามใจจะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ จึงเริ่มจากการรับผิดชอบง่าย ๆ คือทำความสะอาด จัดระเบียบของใช้ส่วนตัวในห้องตัวเอง จากนั้นก็ขยายถึงงานในบ้าน  พอได้ลงมือทำเราก็ภูมิใจ และเมื่อได้ยินคำชมจากป้า ยิ่งทำให้เราภูมิใจยิ่งขึ้น คิดในใจ...เราน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว ทำไมเราคิดไม่ได้นะ”

เมื่อน้องยีนส์ได้ลงมือปฏิบัติก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกับตัวเอง ทำสมุดบันทึกความดีจนครบ 12 สัปดาห์ และส่งเรื่องราวการเปลี่ยนแปลง จนทำให้เรื่องราวของน้องยีนส์ได้รับรางวัล ชนะเลิศ Sila5 Smart Idol ระดับมัธยมศึกษาของโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพฯ ทำให้น้องยีนส์เกิดความภาคภูมิใจที่นำชื่อเสียงมาสู่โรงเรียนอีกด้วย

 

 

 

เมื่อเด็ก ๆ หลังห้องเกิดความเปลี่ยนแปลง

 

          จากเดิมกลุ่มของเรา จะเป็นที่เกรงกลัวของเพื่อน ๆ ในห้อง ด้วยการที่เราจะพูดตรง ๆ ไม่สนใจเพื่อน ๆ รอบข้าง แต่พอเพื่อนเราเปลี่ยน กลุ่มของเราก็ลองเปลี่ยนดู ผลลัพธ์ที่ออกมา ทำให้เพื่อน ๆ ในห้องยอมรับพวกเรามากขึ้น จากเดิมไม่ยอมให้เข้ากลุ่มด้วย ครูไม่สนใจ กลับกลายเป็นเพื่อน ๆ ยอมรับพวกเราเข้ากลุ่ม คุณครูก็มีกิจกรรมให้เราได้ช่วยเหลือโรงเรียนมากขึ้น ความสัมพันธ์ของเพื่อน ๆ ในห้องก็ดีมากขึ้น ได้รับการยอมรับมากขึ้น รอยยิ้มของคนรอบข้างเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจในการทำความดีอย่างต่อเนื่อง

 

                      

ศีล 5 มีความสำคัญอย่างไร? จากมุมมองของเด็ก ๆ

 

          ศีล 5 เป็นสิ่งที่เราทำได้ง่ายที่สุด เหมือนกิจวัตรประจำวันของเรา การที่เรารักษาศีล 5 ทำให้เราไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น ส่งผลให้เรามีความสุข ถ้าทำได้ครบ ก็จะทำให้จิตใจเราสงบและมีสมาธิ มีความมุ่งมั่นในการทำงานได้ดีมากขึ้น ถ้าเรารักษาศีล 5 ครบ จะทำให้เรามีวินัย ทำให้ผู้อื่นชื่นชมเรา รักเราเพิ่มมากขึ้น ในความคิดของพวกหนู ศีล 5 เป็นเหมือนแนวปฏิบัติ ที่ทำให้เราพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่เพียงพฤติกรรมของเราจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ผลการเรียนของเราก็ดีขี้นตามไปด้วย เรามีสมาธิเพิ่มมากขึ้น ลดความโกรธ ไม่ทำความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นมีความสุข

 

          ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงเราได้นอกจากตัวเราเอง สิ่งที่เราคิดว่าเราทำไม่ได้ ต่อต้าน ทำไม่ได้แน่ ๆ ตั้งธงไว้ก่อน คงไม่ต่างกับ Mindset ที่เรา Fixed มันไว้กับตัวเรา แต่เมื่อเกิดสิ่งที่กระตุ้นให้เราเริ่มกระทำสิ่งใด สิ่งหนึ่ง และสามารถทำได้ เช่นการทำความดี รักษาศีล 5  Mindset ของเราก็เปลี่ยนไป และมันจะเปลี่ยนแปลงไปตลอด จนกระทั่งเราสามารถสร้าง Growth Mindset ของเราได้ ในทุกความท้าท้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ซึ่งไม่ต่างกับเด็ก ๆ กลุ่มนี้ที่ได้สร้าง Growth Mindset ในการพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี ที่มีคุณภาพในสังคม

 

 

---

ข่าวอื่นๆ

---

ดูบทความทั้งหมด